บทที่ 5 ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
1.นักศึกษาคิดว่าเหตุใดจึงต้องนำเอาระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการทำงาน
ตอบ เพื่อช่วยให้การทำงานมีความสะดวกขึ้น
คอมพิวเตอร์สามารถเข้าเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายง่ายมากขึ้น
ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายสามารถ ติดต่อถึงกันได้ทันที
2.ระบบเครือข่ายมีข้อดี ข้อเสียอย่างไรบ้าง จงยกตัวอย่างประกอบ
ตอบ ข้อดี สามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ร่วมกันได้ เช่น เครื่องพิมพ์หรือพื้นที่ในฮาร์ดดิสก์
นอกจากนั้นไฟล์ข้อมูลที่จำเป็นก็สามารถเรียกใช้งานได้จากหลายๆ เครื่อง
ข้อเสีย ของระบบเครือข่ายอาจเกิดปัญหาได้เช่นกัน เช่น เรียกใช้ข้อมูลไดช้าเพราะ
ข้อจำกัดของสายของเครือข่ายที่ทำได้ช้ากว่าสายต่อภายในเครื่อง
และยากต่อการควบคุมดูแล เพราะมีผู้ใช้งานหลายคนร่วมกัน
ข้อมูลอาจไม่สามารถใช้งานได้ทันที หากผู้ใดผู้หนึ่งเรียกใช้ข้อมูล
3.สายเคเบิลที่ได้รับความนิยมอย่างแพรหลายมากที่สุดคือสายชนิดใด
จงบอกถึงลักษณะโดยทั่วไปของสายดังกล่าว
ตอบ สายแบบ UTP หรือแบบไม่มีฉนวนหุ้ม
ได้รับความนิยมมากที่สุดเพราะมีราคาถูก และติดตั้งได้ง่าย
เป็นสายขนาดเล็กคล้ายสายโทรศัพท์มี 8 เส้น
ตีเกลียวกันเป็นคู่ๆ เพื่อลดสัญญานรบกวน การเดิน-
สายต้องจากเครื่องเข้าหาอุปกรณ์รวมสายหรือ HUB เท่านั้น
4.จงอธิบายวิธีการทำงานแบบ CSMA/CD ที่ใช้ในระบบเครือข่าย
มาพอเข้าใจ
ตอบ
วิธีการนี้คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะคอย "ฟัง" ว่าสายว่างหรือไม่
ถ้าพบว่าสายว่างก็จะเริ่มส่งสัญญาณออกมาซึ่งถ้าสายว่างจริงข้อมูลก็จะส่งไปถึงผู้รับได้เลย
แต่การเริ่มส่งสัญญาณนี้อาจเกิดขึ้น จากหลาย ๆ สถานีพร้อมกันได้ เพราะต่างคนต่าง
"ฟัง" และเข้าใจว่าสายว่างพร้อมกันผลก็คือสัญญาณที่จะได้จะชนกันในสาย
ทำให้ข้อมูลใช้ไม่ได้
ดังนั้นเครื่องแต่ละเครื่องจึงต้องสามารถตรวจจับการชนกันของข้อมูลได้ด้วย เมื่อเครื่องที่ส่งข้อมูลออกมาชนกันก็ให้หยุดส่งและรอโดยนับถอยหลังตามเวลาที่สุ่มขึ้นมาซึ่งจะแตกต่างกันระหว่างแต่ละเครื่อง
แล้วค่อยส่งข้อมูลออกมาใหม่
5.จงสรุปความหมายของ Server
และ Client มาพอเข้าใจ
ตอบ Server คือเครื่องแม่ข่ายที่ทำหน้าที่ให้บริการข้อมูลสำหรับเครื่องอื่น
ๆ ที่อยู่ในเครือข่ายมักมีหน้าที่และชื่อที่เรียกแตกต่างกันแล้วแต่การให้บริการ
เช่น Mail server,File server,Web server
Pint server,Database server เป็นต้น
Client คือเครื่องลูกข่ายที่อยู่ในระบบ
มีหน้าที่ร้องขอหรือเรียกใช้บริการจากเครื่องแม่ข่ายเมื่อทำงานหรือขอข้อมูลบางอย่างนั้นเอง
6.HUB คืออะไร
เอามาใช้ประโยชน์ได้อย่างไรกับระบบเครือข่าย
ตอบ ตัวรวมสายซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นมากในการต่อ LAN โดยสามารถโยบย้ายสาย สลับเครื่องหรือ เพิ่มจำนานเครื่องได้
เนื่องจากสายทั่งหมดจากทุกเครื่องจะลากมารวมอยู่ที่เดียวกันหมด โดยเรา อาจทำเป็นตู้หรือห้องเพื่อไว้เก็บสายด้วยก็ได้
อาจมีจำนวนพอร์ตเพื่อใช้สำหรับต่อสายต่างกันได้ในแต่ละตัวเช่น 5,8,10,16,24พอร์ตหรือมากกว่านั้นเป็นต้น
7.จงยกตัวอย่างมาตรฐานของ
Ethernet ความเร็วสูงพร้อมทั้งอธิบายมาพอเข้าใจ
ตอบ มาตรฐานของ Ethernet ความเร็วสูง มีดังต่อไปนี้
1000Base-T
เป็นระบบที่พัฒนาต่อจาก Ethernet โดยใช้สายที่ดีขึ้นกว่าเดิมคือสาย UTP แบบ Category5
หรือดีกว่า การต่อนั้นใช้ HUB ที่ทำมาให้รองรับความเร็ว 100 Mbps ด้วยเท่านั้น
Gigabit Ethernet
หรือเรียกกันเป็น 1000 Base-T (สาย UTP) หรือ 1000
Base-F (สาย Fiberoptic) สามารถส่งข้อมูลได้ในระดับความเร็ว 1000 Mbps หรือ 1 Gbps เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความ เร็วสูงมาก เช่น งานกราฟฟิก
หรือใช้เชื่อมต่อตรงช่วงที่เข้าเครื่องเซิร์ฟเวอร์เพื่อสามารถรอง รับงานจากเครื่องอื่นได้มากพร้อมกัน
10 Gigabit Ethernet
เป็นเทคโนโลยีที่สามารถรับส่งข้อมูลได้เร็วกว่าแบบอื่น ๆ คือทำได้ถึง 10000 Mbps
10 Gbps
นิยมใช้สำหรับเชื่อมต่อกับหน่วยงานขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกันระหว่างเมืองหรือ WAN
8. จงบอกลักษณะโดยทั่วไปของสายโคแอกเชี่ยล
ตอบ สายเส้นเดี่ยวแบบที่มีเปลือกเป็นสายโลหะถัก (Shield) เพื่อป้องกันคลื่นรบกวน โดยมักใช้กับเครือข่ายแบบ Ethernet ดั้งเดิมซึ่งสามารถใช้ต่อเชื่อมระหว่างแต่ละเครื่องโดยตรงในลักษณะที่ไม่ต้องมีอุปกรณ์รวมสายเข้ามาช่วย
ปัจจุบันเริ่มใช้กันน้อยลงเพราะถูกทดแทนด้วยสาสยแบบอื่นที่มีราคาถูกและทำความเร็วได้ดีกว่า
9.จงบอกถึงหน้าที่หลักของอุปกรณ์
Route
ตอบ Router
จะทำงานเสมือนเป็นเครื่องหรือ node หนึ่งใน LAN ที่รับข้อมูลเข้ามาแล้วส่งต่อไปยังปลาย
ทางที่ต้องการ หน้าที่หลักของ Router คือหาเส้นทางที่ดีที่สุดในการส่งต่อข้อมูลต่อไปยังเครือข่าย อื่นซึ่งอาจใช้สื่อสัญญาณหลายแบบแตกต่างกันได้
โดยมีการแปลงหรือจัดรูปแบบข้อมูลตามแบบ